กะลังตังช้าง

วงศ์ URTICACEAE สกุล Laportea ชนิด bulbifera Wedd. (Peninsular)

ชื่อพื้นเมือง ว่านช้างร้อง(เชียงใหม่), ตอด(ภาคเหนือ)

ลักษณะ เป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นสีเขียวเข้มเป็นมัน สูง ๑-๒ เมตร หรืออาจจะสูงกว่า ก้านใบสีเขียว ลักษณะกลมค่อนข้างสั้น หรือประมาณ ๔-๖ ซ.ม. ออกจากลำต้นในลักษณะสลับทุกด้าน ใบรูปไข่ ขนาดของใบกว้าง ๓๐-๔๐ ซ.ม. ยาว ๔๐-๕๐ ซ.ม. อาจจะเล็กหรือใหญ่กว่านี้แล้วแต่ขนาดของต้น ปลายใบมนแหลม โคนใบกลม และอาจจะหยักเว้าเล็กน้อย ขอบใบหยักทางด้านบน เส้นกลางใบและเส้นใบเป็นร่องสีเขียวอ่อน แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างเส้นกลางใบและเส้นใบสีเขียวนูนเป็นสัน มีขนอยู่ทั่วๆไป แผ่นใบสีเขียวหม่นเล็กน้อย

ว่าน.com-กะลังตังช้าง,ว่านช้างร้อง,ตอดประโยชน์ ใช้ปลูกป้องกันทรัพย์สิน เป็นรั้วบ้าน รั้วสวน หรือในละแวกช่องทางที่มีมิจฉาชีพชุม หรืออาจจะบุกรุกเข้ามา เป็นว่านที่อันตรายมาก ไม่ค่อยนำมาใช้เพราะเป็นว่านมีพิษ เมื่อถูกเข้าแล้วจะทำให้มีอาการปวดแสบถึงกับเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ถ้าหากแก้ไม่ทันภายใน ๑๕ วัน เนื่องจากพิษของว่านนี้เพียงแค่ถูกใบเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะส่วนไหนของร่างกายจะคันและจะลุกลามไปเรื่อยๆ ยิ่งเกาจะทำให้พิษยิ่งกระจายเข้าถึงกระดูกและตายได้

วิธีแก้พิษ เมื่อถูกพิษจากว่านนี้ ให้ใช้น้ำที่คั้นจากใบยาสูบทา และใช้พญาว่านจ่าว่าน และว่านขอทอง แก้พิษเพื่อรักษาต่อไป

วิธีปลูก ขยายพันธุ์ด้วยกิ่ง หักกิ่งแล้วนำไปปลูกในดินร่วนปนทราย หรือจะชำเอาไว้ก่อน เมื่อรากงอกแล้วจึงค่อยนำไปปลูกลงกระถางก็ได้